1.ถ้าอะตอมมีลักษณะที่ทอมสันเสนอ คือมีโปรตอนเเละอิเล็กตรอนกระจายอยู่ทั่วไปในอะตอม การทดลอง ของรัทเทอร์ฟอร์ดที่ยิงอนุภาคเเอลฟาไปยังแผ่นทองคำบางๆ โดยมีฉาเรืองเเสงโค้งเป็นวงล้อมรอบอยู่ จะ เห็นผลอย่างไร
ก.เห็นการเรืองเเสงด้านข้างเป็นส่วนใหญ๋ เเละมีด้านหลังบ้าง
ข.เห็นกาเรืองเเสงด้านหลังเป็นส่วนใหญ๋ เเละมีด้านหน้าบ้าง
ค.เห็นการเรืองเเสงด้านหน้าเป็นส่วนใหญ่ เเละมีด้านข้างบ้าง
ง.เเทบไม่เห็นการเรืองเเสง เพราะอนุภาคเเอลฟาถูกจับไว้หมด
2.อนุภาคที่มีประจุบวกในหลอดรังสีเเคโทดเกิดจาก
ก.โลหะที่ใช้ทำขั้วเเอโนด เเละเเก๊สในหลอดรังสีนั้น
ข.โละหะที่ใช้ทำขั้วแอโนดเเละเเก๊สในหลอดรังสีนั้น
ค.โลหะที่ใช้ทำขั้วเเอโนด เเคโทด เเละเเก๊สในหลอดรังสีนั้น
ง.เเก๊สในหลอดรังสีเเคโทดเพียงอย่างเดียว
3.จากการทดลองเกี่ยวกับหลอดรังสีเเคโทดนั้น รังสีเเคโทดจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ
ก.ลดความต่างศักย์ระหว่างขั้ว ลดความดันของเเก๊สในหลอดทดลอง
ข.เพิ่มความต่างศักย์ระหว่างขั้ว เพิ่มความดันของเเก๊สในหลอดทดลอง
ค.เพิ่มความต่างศักย์ระหว่างขั้ว ลดความดันของเเก๊สในหลอดทดลอง
ง.เพิ่มความต่างศักย์ระหว่างขั้ว ปรับความดันของเเก๊สภายในหลอดทดลองเท่ากับ 1 บรรยากาศ
4.เหตุใดทอมสันจึงสรุปว่าอนุภาคที่มีประจุบวกในรังสีเเคโทด มีลักษณะต่างกัน เมื่อใช้เเก๊สต่างชนิดกัน
ก.การเบี่ยงเบนในสนามเเม่เหล็กเเละสนามไฟฟ้าต่างกัน
ข.มวลเเละจำนวนประจุบนอนุภาคมีค่าเเตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของเเก๊สที่ใส่ในหลอดรังสี
ค.มีอัตราส่วนของประจุต่อมวลไม่เท่ากับโปรตอน
ง.ถูกทั้งข้อ 1 2 เเละ3
5.ถ้ายิงอนุภาคนิวตรอนเข้าไปในแบบจำลองของรัทเทอร์ฟอร์ด ผลการทดลองในข้อใดที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
ก.อนุภาควิ่งผ่านเป็นเส้นตรง
ข.จะมีบางอนุภาคเกิดการสะท้อนกลับ
ค.จะมีบางอนุภาคเกิดการเบี่ยงเบน
ง.เป็นไปได้ทั้งข้อ 2 เเละข้อ 3
6.ข้อใดผิด
ก.เฟรดอริก ซอดี เริ่มใช้คำว่า ไอโซโทป เป็นคนเเเรก
ข.เจมส์ เเชดวิก เป็นคนค้นพบ โปรตอน
ค.มิลลิเเกนพบค่ามวลต่อประจุของอิเล็กตรอน
ง.มอสเลย์ศึกษา จำนวนโปรตอนของธาตุชนิดต่างๆ โดยใช้รังสีเอ็กซ์
7.ที่ STP อากาศเเละเเก๊สต่างๆ เป็นตัวนำไฟฟ้าที่เลว ถ้าต้องการให้เเก๊สเป็นตัวนำไฟฟ้าดี
จะต้องทำอย่างไร
ก.ลดความดันของเเก๊สให้ต่ำลง โดยการเพิ่ม Voltage
ข.ลดความดันของเเก๊สพร้อมกับลด Voltage ให้ต่ำลง
ค.เพิ่มความดันของเเก๊สพร้อมกับเพิ่ม Voltage ให้สูงขึ้น
ง.ลดความดันของเเก๊สให้ต่ำลงพร้อมกับเพิ่ม Voltage ให้สูงขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น